Work and Holiday ออสเตรเลีย
ใครอยากโกอินเตอร์มาทางนี้! Work And Holiday ที่ Australia 2024 เปิดลงทะเบียน 23 เมษานี้
โอกาสมาถึงแล้ว สำหรับผู้ที่สนใจที่จะไปทำงาน ท่องเที่ยว และแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม เพจเฟซบุ๊ก กรมกิจการเด็กและเยาวชน ได้โพสต์ประชาสัมพันธ์ถึงการเปิดรับสมัครโครงการ Work And Holiday – Australia 2024
Work and Holiday Visa คืออะไร
Work and Holiday คือ โครงการแลกเปลี่ยนที่สนับสนุนให้เยาวชนได้ออกไปเรียนคอร์สระยะสั้น ทำงานชั่วคราว และท่องเที่ยวในออสเตรเลียเพื่อเปิดโลกทัศน์ หาประสบการณ์ชีวิต ฝึกฝนการใช้ภาษาอังกฤษ รวมถึงเรียนรู้วัฒนธรรมของประเทศที่เป็นจุดหมายปลายทาง โดยจะเป็นการให้วีซ่าถูกกฎหมายเป็นระยะเวลา 1 ปี
ข้อกำหนดการเรียนและการทำงานภายใต้วีซ่า Work and Holiday คือ
- สามารถเรียนคอร์สระยะสนั้นได้สูงสุด 4 เดือน (17 สัปดาห์)
- สามารถทำงานประเภทใดก็ได้ แต่สามารถทำงานกับนายจ้างที่หนึ่งได้ไม่เกิน 6 เดือน
โดยต้องคุณสมบัติมีดังนี้
- มีสัญชาติไทย
2. มีอายุระหว่าง 18 – 30 ปี(ไม่เกิน 31 ปีบริบูรณ์ ณ วันที่ยื่นวีซ่ากับทางสถานทูตฯ)
3. สำเร็จการศึกษา ตั้งแต่ระดับปริญญาตรีขึ้นไป
4. มีหลักฐานแสดงทักษะการใช้ภาษาอังกฤษอย่างใดอย่างหนึ่ง ผลการสอบต้องมีอายุไม่เกิน 1 ปี (ใช้วันที่เข้าสอบเป็นเกณฑ์) ตามรายการดังนี้
– ผลการสอบ IELTS รวมทุกทักษะ (over all) ไม่ต่ำกว่า 4.5
– TOEFL iBT รวมทุกทักษะ (over all) ไม่ต่ำกว่า 32
– PTE Academic รวมทุกทักษะ (over all) ไม่ต่ำกว่า 30
– Cambridge English: CAE รวมทุกทักษะ (over all) ไม่ต่ำกว่า 147
– ใบแสดงวุฒิการศึกษาและใบแสดงผลการเรียนระดับปริญญาบัตร หรือ ประกาศนียบัตรจากประเทศออสเตรเลีย หลักสูตร 1 ปี
– ใบแสดงวุฒิการศึกษาและใบแสดงผลการเรียน ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ ระดับอนุปริญญา/ปริญญาตรีขึ้นไป หลักสูตรเต็มเวลาที่ใช้ภาษาอังกฤษ ระยะเวลาอย่างน้อย 2 ปี
– ใบแสดงวุฒิการศึกษา และ ใบแสดงผลการเรียนระดับมัยมศึกษา หลักสูตรที่ใช้ภาษาอังกฤษ ระยะเวลา 5 ปี
– ใบเสดงวุฒิการศึกษา และ ใบแสดงผลการเรียน ระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาตอนต้น และหลักสูตรที่ใช้ภาษาอังกฤษ
5. ต้องเดินทางคนเดียว (ไม่มีผู้ติดตาม)
6. มีหลักฐานการเงินเป็นบัญชีออมทรัพย์ (ของผู้สมัครเอง) เป็นจำนวน 5,000 AUD หรือประมาณ 120,000 บาทไทย
7. มีความประพฤติและสุขภาพดี
8. มีหนังสือรับรองคุณสมบัติ ซึ่งออกให้โดยกรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ทั้งนี้ การสมัครขอรับหนังสือรับรองคุณสมบัติดังกล่าว ผู้สมัครจะต้องยื่นเอกสารสำคัญ ดังนี้
– ใบสมัคร (พิมพ์มาจากการสมัครผ่านทางระบบออนไลน์)
– ปริญญาบัตร หรือ หนังสือรับรองการสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี ฉบับจริง พร้อมสำเนา 1 ชุด โดยเอกสารต้องออกก่อนวันที่เปิดรับสมัครออนไลน์
– ใบรายงานผลการศึกษา (Transcript) ฉบับจริง พร้อมสำเนา 1 ชุด
– หนังสือเดินทางที่มีอายุการใช้งานเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือน ฉบับจริง พร้อมสำเนา 1 ชุด
– บัตรประจำตัวประชาชน ฉบับจริง พร้อมสำเนา 1 ชุด
– ทะเบียนบ้าน ฉบับจริง พร้อมสำเนา 1 ชุด
– หลักฐานเกี่ยวกับทักษะการใช้ภาษาอังกฤษดังกล่าวข้างต้น*
– หลักฐานการเงินเป็นบัญชีออมทรัพย์ (ของผู้สมัครเอง) จำนวน 5,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย เป็น Bank Statement หรือใบรับรองทางการเงินของบัญชีเงินฝากจากธนาคาร โดยชื่อบัญชีจะต้องเป็นชื่อของผู้เดินทางเท่านั้น
– แผนการเดินทางโดยคร่าว ๆ และประเภทงานที่สนใจจะทำระหว่างอยู่ออสเตรเลีย (เขียนสรุปไม่เกิน 1 หน้า เป็นภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษ)
– บันทึกข้อตกลงที่ผู้ปกครองลงนามเรียบร้อยแล้ว
– สำเนาทะเบียนบ้านและสำเนาบัตรประชาชนผู้ปกครอง
ข้อควรทราบเพิ่มเติมจากทาง ดย.
- ห้ามทำการสมัครเข้าร่วมโครงการผ่านบริษัทนายหน้าที่รับเป็นตัวกลางทำการสมัคร และ / หรือจัดหาที่อยู่ให้เด็ดขาด เนื่องจากผิดวัตถุประสงค์ของโครงการ และอาจทำให้ไม่ได้รับวีซ่า รวมทั้งอาจตกเป็นเหยื่อของกลุ่มมิจฉาชีพได้
- วีซ่าประเภทนี้ ไม่ใช่วีซ่าทำงาน ดังนั้น หากพบว่าทำงานประจำ ณ ที่ใดเกินกว่า 6 เดือน จะถือว่าได้ทำผิดกฎหมาย อาจถูกถอนวีซ่าและถูกส่งกลับประเทศได้
- หากตรวจสอบพบว่าผู้สมัครมีเจตนากรอกข้อมูลเท็จ ดย. จะตัดสิทธิ์ผู้สมัครทันที
- การมีใบรับรองคุณสมบัติไม่ได้หมายความว่าวีซ่าจะผ่าน แต่การยื่นขอวีซ่าได้จะต้องมีใบรับรองจากทาง ดย.ก่อน
- การพิจารณาวีซ่าขึ้นอยู่กับทางสถานทูตออสเตรเลียเท่านั้น
เอกสารที่ต้องใช้ยื่นประกอบ วีซ่า Work and Holiday
เอกสารส่วนตัว
- พาสปอร์ตตัวจริง (รวมถึงพาสปอร์ตเล่มเก่าๆ ถ้ามี รวมถึงประวัติการเดินทาง) อายุพาสปอร์ตต้องเหลือมากกว่า 6 เดือน (สแกนหน้าแรกและหน้าที่มีตราประทับเดินทางทุกหน้า)
- รูปถ่ายหน้าตรง ใบหน้าชัดเจน พื้นหลังสีขาว ขนาด 4.5 x 3.5 cm ถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือน
- สำเนาบัตรประชาชน / สำเนาทะเบียนบ้าน (พร้อมฉบับแปลภาษาอังกฤษ)
- หลักฐานทางราชการต่างๆ เช่น สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ – นามสกุล / สำเนาทะเบียนสมรส – หย่า (พร้อมฉบับแปลภาษาอังกฤษ)
- หลักฐานผ่านการเกณฑ์ทหาร หรือเรียน รด. (สำหรับผู้ชายพร้อมฉบับแปลภาษา
- หลักฐานการศึกษา Transcript และใบรับรองจบปริญญาบัตร (หากเป็นภาษาไทยต้องแปลเป็นภาษาอังกฤษ)
- หลักฐานการผ่านงาน ในกรณีที่ผ่านการทำงานมาแล้ว (หากเป็นภาษาไทยต้องแปลเป็นภาษาอังกฤษ)
- หลักฐานเกี่ยวกับทักษะการใช้ภาษาอังกฤษ เช่น ผลการสอบ IELTS / TOEFL หรือใบรับรองผลการศึกษาหลักสูตรภาษาอังกฤษ
- หนังสือรับรองคุณสมบัติจาก กรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.)
Tips : ในการยื่นขอวีซ่าออสเตรเลีย ควรแนบ หลักฐานการทำงาน ไปด้วย เพราะจะแสดงให้เห็นถึงประวัติของเราว่าทำงานอะไรมาบ้างค่ะ
ในกรณี Sponsor ตัวเอง
- หลักฐานการเงิน ในการยื่นเอกสารกับทางสถานฑูตออสเตรเลีย (เอกสารที่แนะนำให้แนบไปด้วยเลยคือ Bank Statement ย้อนหลัง 6 เดือนของผู้เดินทางหรือของสปอนเซอร์ไม่น้อยกว่า 5,000 AUD)
- จดหมายชี้แจงเรื่องหลักฐานการเงิน ในกรณีที่มียอดเงินเข้ามาไม่นาน หรือไม่ถึง 6 เดือน
ในกรณี Sponsor โดยบุคคลอื่น
- จดหมายรับรองค่าใช้จ่าย (เขียนเป็นภาษาอังกฤษพร้อมเซ็นรับรอง)
- เอกสารส่วนตัวของ Sponsor เช่น สำเนาบัตรประชาชน / สำเนาหน้าพาสปอร์ต
- หลักฐานแสดงความสัมพันธ์ เช่น สำเนาทะเบียนบ้าน / สำเนาทะเบียนสมรส / สำเนาสูติบัตร พร้อมฉบับแปลภาษาอังกฤษ
- หลักฐานการเงิน (Bank Statement ย้อนหลัง 6 เดือน ของผู้เดินทางหรือของสปอนเซอร์ไม่น้อยกว่า 5,000 AUD)
- จดหมายชี้แจงเรื่องหลักฐานการเงิน ในกรณีที่มียอดเงินเข้ามาไม่นาน หรือไม่ถึง 6 เดือน
Tips : ทางสถานทูต จะขอดู ที่มาของเงิน ในช่วง 6 เดือนก่อนยื่นวีซ่า หากมีเงินก้อนใหญ่เข้ามาทีเดียว เราต้องสามารถอธิบายแหล่งที่มาของเงินนั้นให้ได้ พร้อมแนบหลักฐานด้วย เช่น จดหมายจากบุคคลที่โอนเงินเข้ามาให้เราว่าโอนให้เพราะอะไร อย่างไร แสดงที่มาของเงินเข้า-ออก และมีความสัมพันธ์อะไรกับเรา เป็นต้น
🗓️สามารถสมัครได้ตั้งแต่วันที่ 23 – 30 เมษายน 2567
สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook กรมกิจการเด็กและเยาวชน และเว็บไซต์ www.dcy.go.th